แนวรับแนวต้านที่ดีที่สุด?

นาย Ishtana มาตั้งกระทู้ว่าตัวเค้าหาแนวรับแนวต้านจากการใช้ indicator ที่ช่วยในการคำนวณหาค่า pivot ตัวหนึ่งแต่เค้าเอาไปใส่ในกราฟคู่เงินตัวเดียวกันแต่ต่างโบรกเกอร์ ผลที่ได้คือมันคำนวนออกมาไม่ตรงกันเลยทั้ง 5 โบรกเกอร์แล้วแบบนี้เค้าจะรู้ได้ยังไงว่าโบรกเกอร์ไหนมีแนวรับแนวต้านใกล้เคียงกับความจริงที่สุด ในความคิดของเค้า เค้าบอกว่าเราในฐานะเทรดเดอร์ควรจะหาแนวรับแนวต้านที่แนวนอนให้เจอเพราะพวกพี่บิ๊กทั้งหลายใช้แนวเหล่านั้น เค้าเดาว่าเหตุผลที่แนวรับแนวต้านขชองแต่ละโบรกเกอร์ไม่น่าเชื่อถือเหมือนในรูปเพราะเทรดเดอร์ที่โตเกียวใช้แนวรับแนวต้านไม่เหมือนกับของคนที่ทางฝั่งอเมริกาใช้รึเปล่า ใครก็ได้ช่วงให้คำตอบกับเขาที
ตัวอย่างกราฟจริงทั้ง 5
คุณ Hatzerim เข้ามาตอบแบบสั้น ๆ ว่า ผมว่ามันดูรุงรังไปนะแค่แนวรับแนวต้านจากสายตาของคุณก็น่าจะเพียงพอแล้ว
คุณ Robertk ตอบว่า หากคุณใช้ Fibonacci แล้วละก็ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปเพราะมันเหมือนกันหมดทุกโบรกเกอร์ ยกเว้นว่าคุณจะมองสวิงผิดอะนะ และคุณ GnarlyPips ก็เข้ามาเสริมคำตอบของคุณ Robertk ว่า แนวรับแนวต้านบอกอะไรกับคุณ สำหรับผมแนวรับแนวต้านคือบริเวณที่มีความเป็นได้ที่จะสามารถทำกำไร การหาแนวรับแนวต้านสำหรับผมก็จะดูเอาจากการลาก Trendline ใช้จุดสูงสุดจุดต่ำสุดจุดเปิดจุดปิดของแท่งเทียนอะไรประมาณนั้นในการคาดการณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีแนวรับแนวต้านไหนถูกหรอก เพราะมันเยอะมากหากจะวัดจากทุกสวิงยิ่งลงไปใน Time Frame เล็ก ๆ ยิ่งนับไม่ถ้วนใหญ่เลย ยิ่งต่าง Time Frame แนวรับแนวต้านก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น

คุณ Gumrai เข้ามาตอบว่า ถ้าผมเป็นพี่บิ๊ก ๆ ทั้งหลายนะ ผมไม่มาสนใจ daily pivot หรอกภาพที่คุณนำมาแสดงให้พวกเราดูเป็นหลักฐานที่บอกเลยว่า daily pivot มันใช้ไม่ได้ถ้าผมเป็นพี่บิ๊ก ๆ นะ ผมลาก Trendline เอาหาแนวรับแนวต้านจากการสวิงของราคายังง่ายกว่าเยอะเลยที่สำคัญนะคือลักษณะของพฤติกรรมราคาต่างหากที่จะบอกว่าแนวนั้น ๆ แข็งหรือไม่แข็ง
คุณ smikester เข้ามาตอบว่า เรื่องของแนวรับแนวต้านเป็นอะไรที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งสำหรับการเทรดเลยเพราะมันไม่มีคำตอบที่ตายตัวแน่นอน สำหรับผมแล้วผมเลือกจะเชื่อแนวรับแนวต้านที่เกิดจาก Trendline มากกว่าเพราะอะไร? เพราะ Trendline มันเกิดจากแรงที่ราคากระทำมาในอดีตดังนั้นมันจะสามารถใช้ลากเพื่อดูพฤติกรรมของแรงได้ดีกว่าพวก Horizontal Line 
คุณ จขกท เข้ามาตอบว่า ผมไม่ค่อยอยากเชื่อแนวรับแนวต้านที่ได้เรียน ๆ มาเท่าไหร่เพราะอะไรนะหรอ เพราะว่าเมื่อราคาเจอแนวรับแนวต้านแล้วจะมีความเป็นไปได้ 4 แบบเกิดขึ้น
แบบที่ 1: ทะลุผ่านไปเลย
แบบที่ 2: ดีดกลับมา
แบบที่ 3: ปรับฐาน
แบบที่ 4: ทะลุไปแล้วดีดกลับ
ดูสิครับ เกิดได้ตั้ง 4 แบบเสี่ยงจะตายคุณมีโอกาสที่จะถูก 1 ใน 4 น้อยมาก เหมือนกากบาท ก ข ค ง เลยนี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ว่าแต่ละโบรกเกอร์แสดงราคาไม่เหมือนกันอีกนะ

คุณ FerruFx เข้ามาตอบต่อทันทีเลยว่า นี่ละครับเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องหารูปแบบของราคา (chart pattern) มายืนยันอีกทีเพราะรูปแบบของราคาสามารถบอกความเป็นไปได้ที่จะรอดหรือไม่รอดให้กับคุณได้ ที่การใช้แนวรับแนวต้าน Fibonacci เป็นที่นิยมเพราะเทรดเดอร์ส่วนมากคอยสังเกตพฤติกรรมราคาจากแนวรับแนวต้านเหล่านี้และเทรดไปในทางเดียวกันบริเวณนั้นมันเลยทำให้กราฟสามารถกระดิกไปในทางที่พวกเขาต้องการได้ยังไงละ

ส่วนตัวแล้วผมชอบหาแนวรับแนวต้านจาก Trendline มากกว่าเพราะอย่างที่คุณ smikester บอกมันใช้วัดพฤติกรรมความชันของสวิงได้ดีกว่าถึงแม้ว่าแนวรับแนวต้านจะเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งแต่พฤติกรรมของราคาก็สำคัญไม่แพ้กัน หน้าที่ของเทรดเดอร์คือมองพฤติกรรมของราคาให้ออกบริเวณแนวรับแนวต้านว่าจะไปต่อหรือกลับตัวดังนั้นความชันของราคา ณ บริเวณแนวรับแนวต้านจะเป็นตัวบอกเราได้ว่าราคาจะหลุดไปได้หรือไม่ได้ ดังนั้นสำหรับผมแนวรับแนวต้านที่ดีที่สุดที่ผมนิยามเองคือ แนวรับแนวต้านที่สามารถทำให้พฤติกรรมของราคาเปลี่ยนแปลงได้และส่งผลให้ความชันของราคาหรือสวิงเปลี่ยนแปลงไป” นั่นละคือแนวรับแนวต้านที่ดีที่สุดสำหรับผม


CREDIT


แปลไทย: PipsteP

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ