การดู แนวรับ แนวต้าน

แนวรับ แนวต้าน แนวที่ราคาขึ้นมาชนแนวเดิมซ้ำๆไม่สามารถผ่านไปได้ เรียกว่า แนวต้าน (Resistance line)ส่วนแนวที่ราคาลงมาที่แนวเดิมซ้ำๆไม่ทะลุลงเรียกว่า แนวรับ (Support line ) แนวรับและแนวต้านไม่จำเป็นต้องลากผ่านที่จุดต่ำสุดหรือสูงสุดเท่านั้น แต่ควรจะลากผ่านหลายๆจุดซึ่งถือว่ามีนัยที่สำคัญกว่า

เมื่อราคาทะลุแนวต้าน แนวต้านเดิมนั้นจะกลายเป็นแนวรับ และเราสามารถคาดการ์ณราคาเป้าหมายในอนาคตได้ คือ เมื่อยกระยะความสูงระหว่างแนวรับกับแนวต้านเดิม คือ A ไปวางที่แนวรับอันใหม่ (ของเดิมเป็นแนวต้าน) แล้ววัดขึ้นไป จะได้เป้าหมายของราคาในอนาคต


เราสามารถใช้จุด high หรือ low ก่อนหน้าเป็น แนวรับแนวต้านได้เช่นกัน จากรูปด้านล่างวงกสมสีแดงเป็น high เดิม หรือเป็นแนวต้าน (Resistance line) เก่า จนเมื่อราคาได้ทะลุขึ้นมา แนวต้านนี้จะกลายเป็นแนวรับ (Support line) ทันทีในวงกลมสีน้ำเงิน

การหาจุดเข้าซื้อ ขาย โดยการใช้ แนวรับ แนวต้าน เข้ามาช่วย
เมื่อทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ เรียกว่า break out ซื้อ
เมื่อทะลุแนวรับลงมาได้ เรียกว่า break out ขาย

การหาแนวรับ แนวต้านควรใช้คู่กับการตีเส้นแนวโน้ม trend line จะให้ผลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น การลากเส้นแนวโน้มมาผสมกับการหาจังหวะเข้าซื้อ ขาย คือเมื่อลากแนวโน้มขาขึ้นได้แล้วราคา break out ทะลุแนวต้าน (อดีต) ขึ้นไปได้ เป็นจังหวะซื้อที่มักจะถูกทางเสมอ ให้ทยอยซื้อเรื่อยๆ เมื่อทะลุแนวต้าน แต่ควรซื้อให้น้อยลงกว่าครั้งก่อน เพราะอย่าลืมว่าราคาได้ขึ้นไปสูงแล้วควรจะซื้อให้น้อยลงตามหลักการของ Money management เพื่อลดความเสี่ยง


การใช้ แนวรับ แนวต้าน ในการหา stop loss วินัยเรื่องนี้ถือว่าสำคัญที่สุด

การเข้าเทรดทุกครั้ง เราต้องคิดเสมอด้วยเหตุและผล ว่าเราเทรดเพราะอะไร วางแผนในเทรดครั้งนี้ยังไง เป้าหมายตรงไหน และจุดยอมรับการขาดทุนอยู่ตรงไหน นึกเสมอว่าเข้าเทรดต้องชนะตลาด เมื่อแพ้ก็ยอมมอบตัวให้เร็ว เมื่อชนะตลาดก็รีบเก็บกำไรให้ได้ รู้ว่าตอนไหนควรอยู่เฉย ๆ ตอนไหนควรเล่นสั้น ตอนไหนควรเก็บยาว
จะเห็นว่าแค่เรารู้พื้นฐาน การลากเส้นและแนวรับแนวต้าน สามารถหาได้ทั้งจุดเข้าซื้อ ขาย เป้าหมาย จุดยอมขาดทุน
ฝึกมองภาพกว้างให้ออก โดยไปมองที่ระยะยาวก่อน มาถึงระยะสั้น เช่น กราฟราย Month, Week, Day และ Minute เป็นต้น

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ